วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มะละกอ

มะละกอ

มะละกอ (Papaya) มะละกอ ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ “Carica Papaya” เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีต้นกำเนิดจากอเมริกากลาง เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทาน มากในบ้านเรา ด้วยการรับประทานสดๆหรือนำมาประกอบอาหาร เช่น ส้มตำ แกงส้ม หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็ได้ มะละกอนั้นจัดว่าเป็นไม้ล้มลุก (หลายๆคนมักเข้าใจผิดว่า เป็นไม้ยืนต้น)

โดยประโยชน์ของมะละกอนั้นค่อนข้างหลากหลาย มีสรรพคุณเป็นทั้งยายารักษาโรค โดยสรรพคุณมะละกอก็เช่น ใช้เป็นยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เป็นต้น และยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน เป็นต้น

แต่มีคำแนะนำว่า ไม่ควรรับประทานมะละกอที่สุกในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ผิวของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้

ประโยชน์ของมะละกอ

มะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด ซึ่งช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรง
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
ช่วยในการชะลอวัย ลดเลือนและป้องกันการเกิดริ้วรอยต่างๆ
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
สามารถนำมาใช้เป็นทรีทเม้นท์ทำหน้าให้หน้าใสได้อีกด้วย ด้วยการนำมะละกอสุกผสมกับน้ำผึ้งและนมสด แล้วนำมาปั่นให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาทาผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยล้างออก
ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้หรือของว่าง
ใช้นำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงส้ม ส้มตำ เป็นต้น
สามารถนำมะละกอไปใช้หมักให้เนื้อนุ่มได้อีกด้วย เพราะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า Papain ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผงหมักสำเร็จรูปที่เราเห็นขายกันอยู่ตามท้องตลาดนั่นเอง
นำมาแปรรูป การแปรรูปมะละกอ เช่น มะละกอแช่อิ่ม มะละกอแผ่น แยมมะละกอ มะละกอเชื่อม ซอสมะละกอ เยลลี่มะละกอ มะละกอแช่อิ่ม มะละกอสามรส มะละกอดอง มะละกอผง เป็นต้น
มีส่วนช่วยกระตุ้นให้มารดามีน้ำนมมากขึ้น
มะละกอ มีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
มะละกอ มีเอนไซม์ที่เป็นยาช่วยย่อยอาหาร
ช่วยป้องกันลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟันได้
ช่วยรักษาอาการขัดเบา ด้วยการใช้รากสดประมาณ 1 กำมือ รากแห้งอีกครึ่งกำมือ หั่นแล้วนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำมาดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนมื้ออาหาร
เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูก ด้วยการกินเนื้อมะละกอสุก
ช่วยในการย่อยอาหาร
ใช้ฆ่าพยาธิ ด้วยการใช้ยางจากผลดิบซึ่งเป็นยาช่วยย่อยโปรตีน
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา จากรากมะละกอ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
ช่วยรักษาอาการเท้าบวม ด้วยนำใบมะละกอสดๆนำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาพอกตรงบริเวณนั้นๆ
ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอก ด้วยใช้รากมะละกอนำมาตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาทาบริเวณนั้นๆ
ใช้รักษาอาการผดผื่นคันขึ้นตามลำตัว ด้วยใช้ใบมะละกอ 1 ใบ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาวจำนวน 2 ผล นำมาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นผดผื่น
ช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน เท้าเปื่อย ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบมาทาวันละ 3 ครั้ง จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อราได้
ช่วยรักษาอาการคันอันเกิดมาจากพิษของหอยคัน ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบๆนำมาทาทั้งเช้าและเย็น
หากโดนเสี้ยนหรือหนามตำหรือหนามหักคาเนื้อใน หากนำยางมะละกอดิบมาทาหนามจะหลุดออกมา แต่ให้บ่งเปิดปากแผลก่อน
หากโดนตะปูตำเท้าเป็นแผล ให้นำผิวของลูกมะละกอดิบมาตำแล้วนำมาพอกแผล โดยเปลี่ยนใหม่วันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลพุพอง อักเสบ ด้วยการใช้ใบมะละกอที่แห้งกรอบนำมาบดให้เป็นผง นำไปผสมกับน้ำกะทิผสมให้พอเหนียว แล้วนำมาทาแผลวันละ 3 ครั้ง
ใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้เนื้อมะละกอดิบๆ นำมาต้มจนเปื่อยๆ นำมาตำแล้วนำมาพอกบริเวณบาดแผล
ใช้รักษาอาการปวดหลังปวดข้อต่างๆ ด้วยรับประทานมะละกอสุกอย่างต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้
ช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้อไม่มีแรง ด้วยการใช้รากมะละกอตัวผู้นำมาแช่เหล้าขาวทิ้งไว้ 7 วัน และกรองเอาน้ำมาบริเวณที่ตามกล้ามเนื้อ หรือบริเวณที่กล้ามเนื้ออ่อน แรง
ช่วยลดอาการปวดบวม ด้วยการนำใบมะละกอสดๆ ไปย่างไฟหรือใช้น้ำร้อนลวก แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีอาการ หรือนำมาตำให้พอพยาบแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางนำมาทำเป็นลูก ประคบก็ใช้ได้เหมือนกัน
ช่วยป้องกันการเกิดอาการตับโต หรือโรคที่เดียวกับตับ
เป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
มีงานวิจัยมะละกอพบว่า การรับประทานมะละกอเป็นประจำมีส่วนช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็งได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น