วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

5 อย่างห้ามพลาด เมื่อเยือนตลาดน้ำอัมพวายามค่ำคืน



5 อย่างห้ามพลาด เมื่อเยือนตลาดน้ำอัมพวายามค่ำคืน Night Style ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2557 ตลาด น้ำอัมพวาเพิ่งฉลองครบรอบ 10 ปี ไปเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนตลาดน้ำแห่งนี้กันมา แล้ว วันนี้เราจึงอยากจะชวนมาสำรวจร่วมกันว่ามีอะไรที่หากไปเยือนตลาดน้ำแห่งนี้ ในเวลาค่ำคืนแล้ว ถ้าไม่ได้ทำเรียกว่าไปไม่ถึง หากพูดถึงตลาดน้ำยามเย็นแห่งแรกในประเทศไทยอย่าง "อัมพวา" เชื่อว่าคุณผู้ชมแทบทุกคนคงเคยได้มาเยี่ยมเยือน ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของตลาดริมน้ำแม่กลองแห่งนี้ เราจึงอยากเชิญชวนมาร่วมตรวจสอบเช็กลิสต์ไปพร้อมๆกันว่า หากมาเดินเล่นยามค่ำคืนที่อัมพวา มีอะไรบ้างที่ถ้าไม่ได้ทำแล้ว จะเรียกว่ามาไม่ถึงอัมพวา เริ่มต้นกันที่การเดินช้อป ชิม ชิว จากร้านค้าและเรืออาหารที่เรียงรายตลอดสองฟากฝั่ง เคล้าไปกับเสียงขับกล่อมเพลงลูกกรุงจากคาราโอเกะริมคลอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำแห่งนี้ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ทอดน่องกินบรรยากาศพร้อมเลือกซื้ออาหารที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาว-หวาน อินเตอร์และพื้นบ้าน เผลอแป๊บเดียวอาจซื้อมาเกินกว่ากระเพาะจะรู้ตัวว่าอิ่ม แต่หากเดินชิวอยู่แต่ด้านล่าง ก็คงจะเรียกว่ายังเห็นอัมพวาไม่เต็มตานัก อย่างที่สองที่พลาดไม่ได้ จึงเป็นการขึ้นมาสัมผัสอัมพวาในมุมสูง ให้ได้ทอดสายตามองไปได้ไกลสุดคลอง ซึ่งร้านอาหารหลายๆเจ้าที่นี่เขาก็มีให้บริการที่นั่งชั้นสองให้ได้ชิวกัน และมุมสูงที่สุดเท่าที่จะเห็นได้ก็คือไม่เกินชั้น 3 เพราะที่นี่เขากำหนดให้อาคารริมน้ำแถวหน้ามีความสูงได้ไม่เกิน 2 ชั้น แถวหลังไม่เกิน 3 ชั้น อย่างที่สามนี้เรียกได้ว่าเคยเป็นเรื่องดึงดูดใจให้หลายๆคนเลือกมาอัมพวาในยามค่ำคืน สำหรับการนั่งเรืออกไปชมหิ่งห้อยที่มีอยู่ตามต้นลำพูดในธรรรมชาติ โดยเรือเที่ยวแรกจะเริ่มออกกันตั้งแต่เวลาหกโมงครึ่ง และลำสุดท้ายไม่เกินสองทุ่มครึ่ง แต่ปัจจุบันก็ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้จำนวนหิ่งห้อยที่นี่นั้นลดลงมาก ใครอยากมาแล้วไม่เสียเที่ยว แนะนำให้รีบมาในช่วงหน้าฝน และถ้ามีใจอยากช่วยรักษาบ้านให้หิ่งห้อยก็ลองเลือกหาเจ้าที่มีบริการเรือพายดูก็ได้ เมื่อเดินชิว และนั่งเรือรับลมธรรมชาติกันแล้ว สิ่งที่จะขาดไม่ได้ยามมาเที่ยวก็คือของฝาก หากจะบอกให้ซื้อปลาทูแม่กลอง หลายคนก็คงจะเบื่อ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ทำกับข้าว อีกของเด็ดที่อยากแนะนำในวันนี้ คือ หมี่กรอบส้มซ่าสูตรโบราณของร้านแม่เล็ก ที่ขายมากว่า 8 ปีแล้วแต่ก็ยังคงไม่คิดขึ้นราคา โดยเจ้าของร้านบอกว่าเป็นสูตรเด็ดสมัยรุ่นคุณแม่ ที่เลือกใช้ส้มซ่าเข้ามาเป็นส่วนผสม เพิ่มรสชาติจี๊ดจ๊าดเบาๆพร้อมกลิ่นหอม ทานแล้วติดใจจนกลายเป็นอีกหนึ่งของฝากยามมาอัมพวาไปแล้ว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแบบนี้ที่แม่ค้ากระซิบบอกเราว่า ยอดปาเข้าไปกว่า 3 พันกล่อง เมื่อภารกิจหาของฝากสำเร็จ ก็คงถึงเวลาได้ลงนั่งพักชิวๆ ริมฝั่งคลอง ซึ่งทั้งสองฟากก็มีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายแนว หลายบรรยากาศ หากมาอัมพวาแล้วคงพลาดไม่ได้ที่จะลองเลือกปักหลักนั่งพักอารมณ์กับอาหารทะเลมื้อหนักสักร้าน ร้านเด็ดที่เราอยากแนะนำในวันนี้ ก็คือ ร้านอาหารครัวเรือนสบาย ที่ไม่เพียงบรรยากาศดี แต่เชฟร้านนี้ยังเป็นคนแม่กลองที่มีประสบการณ์ทำอาหารในโรงแรมหรูของฮ่องกงมากว่า 10 ปี จานเด็ดที่เราแนะนำในวันนี้ ประกอบไปด้วย ปูผัดผงกะหรี่ ต้มยำปลาทูแม่กลอง ซีฟู้ดเผาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ทั้งปลากหมึก ปู และหอยเชลล์ และยำไข่ปูรสกลมกล่อม ซึ่งทั้งหมดนี้ เจ้าของร้านบอกว่าทานที่ไหนก็ไม่อร่อยเหมือนที่อัมพวา และรับประกันว่าไปตลาดเช้าคัดเลือกของเองมากับมือทุกจานเลยทีเดียว และนี่ก็คือ สูตรเด็ด 5 ประการ ที่หากใครไม่เคยได้ลองแล้ว ก็คงเหมือนมาไม่ถึงอัมพวา ก้าวต่อไปสู่ปีที่ 11 เชื่อว่าอัมพวา คงจะยังมีมุมมองใหม่ๆ ให้เราได้ค้นหาเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งก็คงขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ขายสองฟากคลองว่า อยากเห็น ไนท์ สไตล์ ที่อัมพวา ออกมาเป็นอย่างไรต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น