วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

กุ้งหวาน




ส่วนผสม
- กุ้งแชบ๊วย 3 ขีด
- น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา


วิธีทำ
1. ล้างกุ้งให้สะอาด ใช้กรรไกรตัดปลายส่วนหัวและขลิบกรีกุ้งออก
2.นำกระทะตั้งไฟ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปทีเดียว ผัดให้เข้ากัน
จนน้ำตาลละลาย เคี่ยวจนกุ้งออกสีแดง ใส ยกลงเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ
หรือกินคู่กับแกงเผ็ดภาคใต้ชนิดต่างๆ  ข้าวคลุกกะปิ ฯลฯ




กุ้งขนาดไม่เล็กจนเกินไป (กิโลกรัมละ 220 บาท)


ใช้กรรไกรตัดปลายส่วนหัวทิ้ง
และเนื่องจากกุ้งตัวค่อนข้างใหญ่จึงใช้กรรไกรขลิบกรีกุ้งออกไปด้วย


ใส่ส่วนผสมลงไป ผัดให้เข้ากัน (แนะนำ ใส่กลือเพียง ¼ ช้อนชา ก่อน
แล้วค่อยปรับเพิ่มทีหลังทีละน้อย ถ้าใส่จนเค็มในครั้งแรกจะแก้ไขยาก)


ขณะผัดจะมีน้ำจากตัวกุ้งออกมา


ดังนั้น จึงไม่ต้องใส่น้ำไปในส่วนผสม


เคี่ยวจนน้ำจากตัวกุ้งแห้งด้วยไฟอ่อนๆ


กุ้งเริ่มมีสีแดงใส น้ำตาลรัดตัว เป็นอันใช้ได้


ตักใส่จาน เสิร์ฟเคียงอาหารปักษ์ใต้ ช่วยลดความเผ็ดร้อนได้ดีนัก

* หากใช้กุ้งตัวเล็ก จะได้กุ้งสีแดง ตัวใสเป็นเงามากกว่านี้
...แต่เคี้ยวไม่ค่อยได้รสของกุ้งเท่าใดนัก
ไปได้รสชาติของเปลือกกุ้งมากกว่า...แต่ก็ได้ประโยชน์จากแคลเซียมมาก

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

กุ้งอบวุ้นเส้น อร่อยง่าย ๆ


กุ้งอบวุ้นเส้น อร่อยง่าย ๆ แค่มีหม้อหุงข้าว
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หลายคนคงหลงเสน่ห์กลิ่นหอม ๆ ของอาหารไทยอย่างกุ้งอบวุ้นเส้น หอมกลิ่นเครื่องเทศ เคี้ยวหนุบหนับไปกับวุ้นเส้นนุ่ม ๆ กับกุ้งหวาน ๆ รับประทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซบก็อร่อยดีจริงเชียว วันนี้เราจึงนำสูตรกุ้งอบวุ้นเส้นที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่คุณมีหม้อหุงข้าวก็อร่อยได้แล้ว อยากจะรับประทานตอนไหนก็ได้มาฝาก ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อให้เสียเวลา แถมอร่อยไม่แพ้กันอีกด้วย 

สิ่งที่ต้องเตรียม

           กระเทียมกลีบใหญ่ ทุบพอแตก 2 กลีบ

           ขิงแก่หั่นเป็นแว่นบาง 3 ชิ้น

           พริกไทยเม็ด บดหยาบ ๆ 1 ช้อนชา

           ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

           ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

           น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

           น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

           น้ำซุปไก่ 100 มิลลิลิตร

           วุ้นเส้นห่อเล็ก (แช่น้ำจนนิ่ม) 1 ห่อ

           เบคอน 2 เส้น

           ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน 20 กรัม

           กุ้ง ปอกเปลือกเหลือหาง 5 ตัว

           ขึ้นฉ่ายสำหรับโรยหน้า

           น้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับรับประทานคู่

วิธีทำ

          1.ใส่กระเทียม ขิง พริกไทย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย น้ำมันงา และน้ำซุปไก่ลงในวุ้นเส้นที่แช่จนนิ่มแล้ว ผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที หรือจนน้ำซอสซึมเข้าวุ้นเส้น

          2.ใส่เบคอนลงในหม้อหุงข้าว ตามด้วยส่วนผสมวุ้นเส้น วางกุ้งด้านบน โรยขึ้นฉ่าย ปิดฝาอบจนสุก ตักใส่จาน โรยด้วยขึ้นฉ่าย พร้อมรับประทาน

          แค่วิธีทำง่าย ๆ ก็ได้กุ้งอบวุ้นเส้นหอม ๆ ไว้รับประทานแล้ว ลองทำกันดูนะคะ ไม่ยากเลย

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

CCNA

CCNA Exam Prep

CCNA คืออะไร ?

CCNA หรือ Cisco Certified Network Associate คือ การสอบวัดมาตรฐานความรู้ด้าน Network ของบริษัท Cisco และเป็นบันไดก้าวแรกสำหรับสายงานด้าน Network Implementation และ Network Support

ประกาศนียบัตรของซิสโก้ ซิสเต็ม     ซิสโก้เป็นบริษัทชั้นนำและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของเทคโนโลยีในส่วนของระบบเครือข่ายและอุปกรณ์เครือข่าย โดยเฉพาะอุปกรณ์เราเตอร์ ประกาศนียบัตรการทำงาน Career Certifications ของซิสโก้จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่
     1. Entry
     2. Associate
     3. Professional
     4. Expert
     5. Architect

รายละเอียดหลักสูตร

เนื้อหาหลักสูตรถูกออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานในสายงานด้านระบบ Network โดยเน้นการ Config อุปกรณ์ Router และ Switch ของค่าย Cisco เป็นหลักรวมถึงผู้ที่ต้องการเตรียมตัวเพื่อสอบ CCNA Certificate เพราะเนื้อหาหลักสูตรจะเน้นทฤษฎีและปฏิบัติควบคู่กันไป เพื่อให้ผู้รับการอบรมสามารถนำไปใช้และปฏิบัติงานได้จริง และยังเหมาะกับนักศึกษาด้านไอทีชั้นปี 3-4 หรือนักศึกษาที่จบการศึกษาใหม่เพื่อที่จะนำไปใช้ในการสัมภาษณ์งานหรือใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไว้ใช้ในการศึกษาต่อในระดับสูงต่อไป เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันสูงและมีผู้สนใจทำงานด้าน Network มากขึ้น ผู้ที่มีความรู้ด้านนี้จะได้เปรียบ โดยเฉพาะถ้าสามารถสอบได้ใบ Cert. CCNA จะมีโอกาสในการทำงานมากกว่า นอกจากนี้ใบ Cert. CCNA ยังมีส่วนในการเพิ่มอัตราเงินเดือนในหลายบริษัท และผู้รับการอบรมจะสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาในระบบ Network ที่เกิดขึ้นในองค์กรได้ด้วย

หลักสูตรนี้เหมาะกับ

- นักศึกษา และบุคคลทั่วไป

- ผู้ที่สนใจเริ่มต้นศึกษาด้าน Network อย่างจริงจัง

- ผู้ที่ต้องการจะก้าวไปเป็น Network System Administrator

- ผู้ที่สนใจจะสอบ Cert. CCNA

- ผู้ที่สนใจศึกษาในระดับ Advance ต่อไป เช่น Linux Server , Wireless , Security ,Voice

- ผู้ที่สนใจเปลี่ยนสายงานมาทางานด้าน Network

ความรู้ที่ต้องใช้ในการสอบ CCNA

1.Networking Concept
        1.OSI Model Layers
        2.TCP / IP
        3.Device Communication

2.LAN Design
        1.Ethernet
        2.Brideging and Switching
        3.Routing
        4.LAN Segment

3.Cisco Device
        1.Conecting Devices
        2.Command Line Interface
        3.System Startup
        4.Managing System Files
        5.Using Show Commands

4.Intial  Router Configuration
        1.Hostname Interface and Descriptions
        2.System Passwords
        3.Banners
        4.Interface

5.Switch Configuration
        1.Switch Basics
        2.Vitual LANs
        3.Trunking
        4.Spanning Tree
        5.Advanced Switching

6.Managing TCP/IP
        1.Subnetting
        2.Configuring IP
        3.Address Resolution
        4.Troubleshooting IP

7.Access Lists
        1.Access List Concept
        2.Configuring Access Lists
        3.Working with Wildcards Masks
        4.Design and Monitoring Access Lists

8.IP Routing
        1.Routing Concept
        2.Static Routes
        3.Configuring RIP
        4.Troubleshooting RIP
        5.Configuring RGIP
        6.Troubleshooting RGIP
        7.OSPF
        8.EIGRP
        9.Routing Protocol Comparison

9.Wide Area Networking
        1.WAN Concepts

10.PPP (Point-to-Point Protocal)
        1.PPP Concepts

11.Frame Relay
        1.Frame Relay Concepts
        2.Enabling Frame Relay
        3.Static Mapping
        4.Subinterfaces
        5.Troubleshooting Frame Relay

12.ISDN
        1.ISDN Concepts
        2.Configuring BRI interfaces
        3.Dial-on-Demand Routing (DDR)
        4.DDR Timers
        5.Complete ISDN Configuration
        6.Troubleshooting ISDN BRI

13.Wireless LAN
        1.Wireless LAN Concepts

ตัวอย่าง Certification

ตัวอย่าง Certification
 

น้ำมันว่านทิพย์(วัดวังหลวง)

แก้เหน็บชา ตะคริว แก้วปวดเมื่อย ปวดฟัน 
ทาแผลสด แผลพุพอง น้ำร้อนลวก
ทาแก้พิษตรงบริเวณนั้น แมลงกัดต่อย

วิธีใช้ : ใช้สูดดม บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก
ท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้ทาถูนวดบริเวณที่ต้องการ

เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ใช้ดี ผู้อาวุโส
ควรมีติดตัวไว้ตลอดเวลา

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

มะขามแขก



กลุ่มยาถ่าย
มะขามแขก
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Senna alexandrina P. Miller
ชื่อสามัญ :   Alexandria senna, Alexandrian senna Indian senna
วงศ์ :   Fabaceae (Leguminosae-Caesalpinioideae)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 0.5 – 1.5 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปวงรีหรือรูปใบหอก กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. ดอกช่อ ออกที่ซอกใบตอนปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลือง ผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนาน 
ส่วนที่ใช้ :  
ใบแห้ง และฝักแห้ง ช่วงอายุ 1 เดือนครึ่ง (หรือก่อนออกดอก)
สรรพคุณ :
  • บและฝัก  -  ใช้เป็นยาถ่ายที่ดี ใบไซ้ท้องมากกว่าฝัก  
วิธีและปริมาณที่ใช้ :
          
ใบมะขามแขกหนัก 2 กรัม หรือ 2 หยิบมือ หรือใช้ฝัก 10-15 ฝัก ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว 5 นาที ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อกลบรสเฝื่อน รับประทานครั้งเดียว หรือ ใช้วิธีบดใบแห้ง เป็นผงชงน้ำดื่ม บางคนดื่มแล้วเกิดอาการไซ้ท้อง แก้ไขโดย ต้มรวมกับยาขับลมจำนวนเล็กน้อย (เช่น กระวาน กานพลู อบเชย)  เพื่อแต่งรสและบรรเทาอาการไซ้ท้อง
          มะขามแขก เหมาะกับคนสูงอายุ ที่ท้องผูกเป็นประจำแต่ควรใช้เป็นครั้งคราว
ข้อห้าม  ผู้หญิงมีครรภ์ หรือ มีประจำเดือน ห้ามรับประทาน
สารเคมี  ใบและฝักพบสารประกอบพวก anthraquinones เช่น sennoside A.B.C.D. aloe emodin , emodin , rhein  , physcion และสาร anthrones dianthrones



หญ้าหนวดแมว

กลุ่มยาขับปัสสาวะ

หญ้าหนวดแมว

รูปต้นหญ้าหนวดแมว


ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Orthosiphon aristatus (Blume) Miq.
ชื่อพ้อง : O. grandiflorus  Bold.

ชื่อสามัญ :   Java tea, Kidney Tea Plant, Cat's Whiskers

วงศ์ :  Lamiaceae ( Labiatae)

ชื่ออื่น :  บางรักป่า (ประจวบคีรีขันธ์) พยับเมฆ (กรุงเทพฯ) อีตู่ดง (เพชรบูรณ์)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  พืชล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นกิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม สูง 0.3-0.8 เมตร ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม แผ่นใบรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ขอบใบหยัก แผ่นใบสีเขียวเข้ม ดอกช่อ ออกตรงปลายยอด มี 2 พันธุ์ ชนิดดอกสีขาวอมม่วงอ่อน กับพันธุ์ดอกสีฟ้า บานจากล่างขึ้นข้างบน เกสรเพศผู้เป็นเส้นยาวยื่นออกมานอกกลีบดอก ผล เป็นผลแห้งไม่แตก
ส่วนที่ใช้ :  ราก ทั้งต้น ใบและต้นขนาดกลางไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไป

สรรพคุณ :

ราก - ขับปัสสาวะ

ทั้งต้น -  แก้โรคไต ขับปัสสาวะ รักษาโรคกระษัย รักษาโรคปวดตามสันหลัง และบั้นเอว รักษาโรคนิ่ว รักษาโรคเยื่อจมูกอักเสบ

ใบ -  รักษาโรคไต รักษาโรคปวดข้อ ปวดหลัง ไขข้ออักเสบ ลดความดันโลหิต รักษาโรคเบาหวาน ลดน้ำขับกรดยูริคแอซิดจากไต

วิธีและปริมาณที่ใช้ :

ขับปัสสาวะ
1. ใช้กิ่งกับใบหญ้าหนวดแมว ขนาดกลาง ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป ล้างสะอาด นำมาผึ่งในที่ร่มให้แห้ง นำมา 4 กรัม หรือ 4 หยิบมือ ชงกับน้ำเดือด 1 ขวดน้ำปลา (750 ซีซี.) เหมือนกันชงชา ดื่มต่างน้ำตลอดวัน รับประทานนาน 1-6 เดือน
2. ใช้ต้นกับใบวันละ 1 กอบมือ (สด 90- 120 กรัม แห้ง 40- 50 กรัม ) ต้มกับน้ำรับประทาน ครั้งละ 1 ถ้วยชา (75 ซีซี.) วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

ข้อควรระวัง - คนที่เป็นโรคหัวใจ ไต ห้ามรับประทาน เพราะมีสารโปตัสเซียมสูงมาก ถ้าไตไม่ปกติ จะไม่สามารถขับโปตัสเซียมออกมาได้ ซึ่งทำให้เกิดโทษต่อร่างกายอย่างร้ายแรง
การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์
          หญ้าหนวดแมวมีโปรแตสเซียมสูงประมาณร้อยละ 0.7-0.8 มี Glycoside ที่มีรสขม ชื่อ orthsiphonin นอกจากนี้ก็พบว่ามี essential (0.2-0.6%) saponin alkaloid, organic acid และ fatty oil อีกด้วย จากรายงานพบว่ามีสารขับปัสสาวะได้ ยาที่ชงจากใบใช้บำบัดโรคเกี่ยวกับไตได้หลายชนิดด้วยกัน ใช้บำบัดโรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ เช่น โรคไตอักเสบ

        ** โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นายแพทย์ วีรสิงห์ เมืองมั่น และคณะ พบว่าได้ใช้ยาชงจากหญ้าหนวดแมว 4 กรัม ชงกับน้ำเดือด 750 ซีซี. ดื่มต่างน้ำในคนไข้ 27 คน พบว่าทำให้ปัสสาวะคล่องและใส อาการปวดนิ่วลดลงได้และนิ่วขนาดเล็กลง และหลุดออกมาได้เอง มีผู้ป่วยร้อยละ 40 ผู้ป่วยหายจากปวดนิ่วร้อยละ 20 กองวิจัยทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานเรื่องพิษเฉียบพลันว่าไม่มีพิษ
สารเคมี :
          ต้น มี Hederagenin, Beta-Sitosterol, Ursolic acid
          ใบ มี Glycolic acid, Potassium Salt Orthosiphonoside, Tannin, Flavone Organic acid และน้ำมันหอมระเหย



วิธีทำไข่ลูกเขย หอมอร่อย ด้วยสูตรต้นตำรับ


สวัสดีครับ วันนี้ได้มีโอกาสกลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ผมมีเมนูน่าทานอีกเมนูนึงมาแนะนำครับ แถมเป็นเมนูโปรดของผมตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยหล่ะครับ นั่นก็คือ ไข่ลูกเขยนั่นเองครับ สำหรับวิธีการทำนั่นก็ไม่ได้มีอะไรยากเลยครับ เรามาดูวัตถุดิบกันดีกว่าครับ


ส่วนประกอบในการทำไข่ลูกเขย

  • น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช (ในส่วนนี้เราต้องใช้น้ำมันในการทอดไข่และในการเคี้ยวน้ำปรุงด้วยครับ อาจจะต้องเตรียมไว้เยอะหน่อยสำหรับการทอดไข่ลูกเขย)
  • น้ำปลาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่เป็ดต้ม 3 ฟอง (อาจจะใช้ไข่ไก่ก็ได้แต่ความมันและอร่อยไข่เป็ดจะอร่อยกว่า)
  • หอมแดงซอยเป็นแว่นๆ (สำหรับหอมแดงเราใช้ใส่ในน้ำปรุงและสำหรับเจียวไว้โรยหน้าด้วยครับ)
  • กระเทียมเจียว
  • พริกแห้ง (หากว่าทำให้เด็กๆ ทานก็ไม่ต้องใช้ครับ แต่หากเด็กๆ ทานเผ็ดได้ก็แนะนำให้ใส่ไปเล็กน้อย อาหารไทยต้องมีรสเผ็ดบ้างหล่ะนะ)
  • ผักชีสำหรับโรยหน้า
เอาหล่ะครับจะเห็นว่าส่วนประกอบของการทำไข่ลูกเขยนั้นจะไม่มีอะไรที่หายากเลยครับ คิดว่าเข้าครัวทุกบ้านก็หาวัตถุดิบเหล่านี้ได้ง่ายๆ เลยหล่ะครับ อย่าพูดมากดีกว่าครับ เรามาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าครับ

วิธีทำไข่ลูกเขย

  1. เริ่มแรกก่อนเลยคือให้เราทำไข่เป็ดมาต้มแล้วแกะเปลือกนำลงไปทอดในน้ำมันให้เหลืองแล้วตักขึ้นมาพักไว้ครับ (เคล็ดลับตรงนี้แนะนำว่าในระหว่างที่ทอดไข่นั้นให้เราขยันคน อย่าให้ไข่อยู่นิ่งๆ เพราะอาจจะสุกไม่เท่ากันได้นะ)
  2. เจียวหอมและกระเทียมเตรียมไว้
  3. ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง เทน้ำมันลงกระทะแล้วตามด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป น้ำปลา แล้วเคียวให้ดูว่าเริ่มงวด ให้ใส่หอมแดงลงไปเล็กน้อย (ตรงขั้นตอนนี้หากต้องการใส่พริกแห้งให้ตบพริกแห้งแล้วหั่นเป็นท่อนใหญ่ๆ ใส่ลงไปได้เลย)
  4. พอหอมซอยเริ่มสุกและน้ำราดไข่ลูกเขยเริ่มงวดแล้วก็ให้ตักใส่ถ้วยเตรียมจัดจานได้เลยครับ
  5. สำหรับการจัดจานนั้นอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลเลยครับ อาจจะหั่นไข่เป็น 4 ส่วน หรือ 2 ส่วนก็แล้วแต่ชอบเลยครับ หลังจากนั้นก็ราดน้ำราดลงบนไข่ลูกเขยที่เตรียมไว้ โรยด้วยกระเทียมและหอมเจียว แต่งด้วยผักชีเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จแล้วหล่ะครับ
ถึงจุดนี้ผมแนะนำว่าให้ตักข่าวสวยร้อนๆ เตรียมไว้ได้เลยครับ พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวไปทานบ้างแล้วหล่ะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันเด็กๆ ที่ชอบเหลือแต่น้ำราดไว้ให้ผมราดข้าวกินปล่าวๆ ประจำเลยครับ แล้วเจอกันครับ สวัสดีจร้าาาาาา

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

รูปแบบธุรกิจออนไลน์ที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ

ทำไมต้องเป็น ธุรกิจออนไลน์

ปัจจุบัน Internet เข้ามามีบทบาทอย่างมากกับวิถีชีวิตของคนทั่วโลก Internet ทำให้คุณติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการสื่อสารรูปแบบเดิมๆ
นอกจากนี้ Internet ยังเปิดโอกาสให้คุณได้เลื่อกซื้อสินค้า จับจ่ายใช้สอย หยิบเงินออกจากกระเป๋าได้ง่ายขึ้น สามารถหาซื้อสินค้าที่คุณต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา และจากทั่วทุกมุมโลก
แต่ Internet ยังมีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญ สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว เพราะคุณสามารถสร้างธุรกิจบนโลก Internet ได้ด้วย ไม่ใช่แค่เช่าพื้นที่ และเปิดหน้าร้านแบบเดิมๆ เพียงอย่างเดียว
จึงทำให้ทุกวันนี้ ธุรกิจออนไลน์ แพร่หลายเป็นอย่างมาก เพราะ Internet ได้ทลายข้อจำกัดบางอย่างของ ธุรกิจออฟไลน์ หรือธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ เช่น คุณสามารถโชว์สินค้าที่หน้า Website ได้อย่างไม่จำกัด ต่างจากร้านของคุณซึ่งมีพื้นที่จำกัด

รูปแบบของ ธุรกิจออนไลน์

การทำธุรกิจออนไลน์ ก็ยังมีการแบ่งประเภทเป็นหลายรูปแบบ ไม่ใช่มีแค่เพียงเปิด Website เพื่อขายสินค้าเพียงอย่างเดียว การมองถึงแค่ขายสินค้าทาง Internet เป็นการมองศักยภาพของ Internet ไว้ต่ำมาก
คุณยังสามารถใชั Internet ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือสร้างแฟนคลับของคุณเอง หรือแม้แต่ทำให้ผู้ซื้อ กับผู้ขายมาเจอกันใน Website ที่คุณสร้างขึ้นก็เป็นได้ โดยรูปแบบของธุรกิจออนไลน์ ที่แพร่หลาย แบ่งเป็น 6 รูปแบบ ที่สำคัญ ดังนี้
1. Website ขายสินค้า

รูปแบบของการขายสินค้าผ่าน Website เป็นรูปแบบที่ง่ายที่สุด พื้นฐานที่สุด และทุกคนคุ้นเคยที่สุด ซึ่ง Website ที่คนรู้จักดีว่าเป็น Website ขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็คือ amazon.com
การขายสินค้าผ่าน Website มีข้อดีตามที่บอกในข้างต้นนั่นคือ คุณสามารถโชว์สินค้าทุกรายการที่คุณมีอยู่ในมือได้ โดยไม่ต้องกลัวว่า พื้นที่ใช้สอยจะไม่พอ เพราะคุณใช้พื้นที่ในโลกไซเบอร์ได้ โดยไม่มีข้อจำกัด
ส่วนสินค้าที่คุณนำมาขาย ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่คุณผลิตเอง คุณสามารถรับสินค้ามาจากผู้ผลิตรายอื่น ขอแค่คุณมีไอเดียในการนำเสนอสินค้าที่ดี ทำหน้าเวปให้สวยงาม และเปิดง่าย โหลดไม่นาน ไม่นำ Flash มาใส่
และยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ Website ของคุณต้องเปิดได้ตลอดเวลา ไม่ใช่ดับๆ ติดๆ อยู่ดีๆ ก็โดน Hack ลูกค้าคงจะเสียอารมณ์เปล่าๆ คุณจึงจำเป็นต้องหา Web Hosting ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัย และเสถียรภาพ อย่าง Bluehost.com หรือ Hostgator.com แค่นั้นก็ทำให้ Website ของคุณน่าสนใจแล้ว
2. Website เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์
คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่มีธุรกิจที่เป็นแบบ ออฟไลน์ หรือมีหน้าร้านของคุณเองอยู่แล้ว แต่คุณต้องการที่จะ โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าของคุณ รูปแบบนี้เป็นอีกรูปแบบที่ทรงพลังมากในการ ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจที่เป็นแบบ ออฟไลน์ ของคุณ
จากตัวอย่างในรูปนั้น เป็น Website ของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ www.scg.co.th จะเห็นได้ว่า Website ของ SCG ไม่มีการขายสินค้าแม้แต่น้อย
แต่จะเน้นไปที่ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้บอกว่า SCG คือ อะไร ทำอะไร ขายอะไร และจะติดต่อกับ SCG ได้อย่างไร ถ้าคุณจะทำ Website เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ วิธีที่จะทำให้ Website ดูน่าสนใจ คือ ให้คุณเพิ่มเติมเนื้อหาที่ ให้ความรู้กับคนที่เข้ามาอ่านด้วย
3. Website ข่าวสารในวงเฉพาะ หรือเล่าเรื่องแบบมี Theme
คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า ไม่ชอบการขายสินค้า แต่มีงานอดิเรกที่น่าสนใจ มีข่าวสารที่อยากจะเผยแพร่ หรือมีความรู้บางอย่างที่อยากจะบอกให้คนอื่นรู้ คุณก็อาจจะเริ่มต้นสร้างธุรกิจด้วยการ ทำ Website ข่าวสารในวงเฉพาะ หรือเล่าเรื่องแบบมี Theme ได้
Website ที่เป็นตัวอย่างของรูปแบบนี้ที่เรายกมา คือ drama-addict.com ซึ่งมีรูปแบบธุรกิจที่น่าสนใจมาก นั่นคือ รู้ธรรมชาติของคนไทย ที่ชอบการซุบซิบ นินทา เรื่องของคนอื่น รวมไปถึง ชอบดูคนทะเลาะกัน ก็มีการนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ ในรูปแบบของข่าว และให้ผู้อ่านตามไปดู
ซึ่งหลายคนอาจจะมีคำถามว่า แล้ว Website รูปแบบนี้ ได้เงินจากที่ไหน จะทำไปทำไม คำตอบของคำถามเหล่านี้ คือ เหมือนสื่อประเภทอื่นๆ นั่นคือ ค่าโฆษณา Website เหล่านี้อาจจะได้เงินจาก พิ้นที่โฆษณา Banner ที่ขายให้ Sponsor หรืออาจจะเป็น Adsense ก็เป็นได้
4. Blog เพื่อการ รีวิว และโปรโมทสินค้า
รูปแบบ Blog เพื่อการ รีวิว และโปรโมทสินค้า อาจจะเป็นรูปแบบที่ ไม่ค่อยได้เห็นมากนักในประเทศไทย แต่นี่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ทรงประสิทธิภาพมาก และสร้างรายได้มหาศาลได้เลยทีเดียว แต่มันก็ยากที่จะทำได้สำเร็จ และมีน้อยคนที่จะทำได้
ตัวอย่างที่เรานำมาโชว์ คือ www.smartpassiveincome.com ซึ่งเป็น Website ของนาย Pat Flynn อดีตสถาปนิก ชาวอเมริกัน ที่โดนให้ออกจากงาน ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ เลยผันตัวเองมาสร้าง Website เพื่อขายสินค้าก่อน และสร้าง Website นี้ขึ้นมา
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการสร้างธุรกิจออนไลน์ ของตัวเค้าเอง และเขียนรีวิว ในสิ่งที่เค้าคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการสร้างธุรกิจของเค้า โดยเค้าจะได้เงินทุกครั้งที่มี คนเข้าไปซื้อสินค้าที่เค้า ทำรีวิวไว้ ฉะนั้น ยิ่งมีคนดูรีวิวเยอะ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะซื้อสินค้าเยอะตามไปด้วย
5. สร้าง Marketplace
รูปแบบอีกอย่างของการทำธุรกิจบน Internet คือ การสร้าง Marketplace เช่น ebay แต่วันนี้ขอให้คุณนึกภาพตามว่า สมมติคุณเป็นคนที่ชอบเครื่องเสียง มันก็คงจะดี ถ้าวันนึงมีคนเปิด Website ที่ให้คุณแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และซื้อขายของสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องเสียง
แต่ทำไมคุณไม่เป็นคนสร้าง Website แบบนี้ขึ้นมาเองล่ะ การสร้าง Website ลักษณะนี้ เรียกว่า การสร้าง Marketplace หรือตลาดให้คนมาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดในแง่ของสินค้าทั่วๆ ไป ที่ไม่ได้มีกลุ่มเฉพาะ และอยู่ในประเทศไทย คงเป็น tarad.com
ที่เป็นตัวกลางที่ คนอยากซื้อ กับคนอยากขายมาเจอกัน แต่ถ้าคุณจะสร้าง Marketplace ขึ้นมาเอง คุณอาจจะเลือกสร้าง Website ที่เป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น ซื้อขายคอนโด เครื่องเสียง หูฟัง รองเท้ากีฬา หนังสือเก่า พระเครื่อง หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่คุณมีความรู้ และความรักในสิ่งเหล่านี้
ซึ่งคุณสามารถให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าได้ เช่น วิธีการดูอันไหนของจริง อันไหนของปลอม สามารถให้ราคากลางได้ เป็นต้น
6. เป็นส่วนหนึ่งของ Marketplace
ธุรกิจออนไลน์ รูปแบบสุดท้ายที่จะถูกนำเสนอ คือ ทำตัวคุณให้เป็นส่วนหนึ่งของ Marketplace อาจจะขายสินค้าทั่วๆไปก่อน จนจับแนวทางของตัวเอง หรือของตลาดได้ว่า ควรจะขายสินค้าอะไรเป็นหลัก
ถ้าวันนี้คุณมีความรู้ในเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเฉพาะที่กล่าวมาในข้อ 5 และคิดว่า สร้าง Marketplace เองมันยากเกินความสามารถของคุณ คุณก็เลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Marketplace นั้นๆก่อน ซึ่งง่ายกว่ามาก
โดยการนำสินค้ามาขายใน Website ที่เป็น Marketplace นั้น เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวคุณ ร้านของคุณ หรือแม้แต่ธุรกิจของคุณเอง ในอนาคตคุณก็สามารถยกระดับจาก เป็นส่วนหนึ่งของ Marketplace เป็นการเปิด Website เพื่อขายสินค้าด้วยตัวเองเพิ่มเติมได้อีกด้วย